27 กันยายน, 2024
คูปองส่วนลดเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมายาวนานในการตลาด แต่ประสิทธิภาพของมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่การดึงดูดลูกค้าด้วยราคาที่ถูกลง เมื่อใช้อย่างมีกลยุทธ์ คูปองและส่วนลดสามารถผลักดันยอดขาย เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า และสร้างความภักดีต่อแบรนด์ที่ยั่งยืน สำหรับนักการตลาดและธุรกิจที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้สูงสุด สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจประเภทของคูปองต่างๆ และวิธีการจัดตำแหน่งให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ บทความนี้จะเจาะลึกวิธีการใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์คูปองต่างๆ สำรวจตัวอย่างในโลกแห่งความเป็นจริง และแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือต่างๆ เช่น Rocket Loyalty CRM 4.0 สามารถช่วยแบรนด์ต่างๆ สร้างโปรแกรมคูปองที่หลากหลายและกระตุ้นลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำและเพิ่มยอดขายให้แบรนด์อย่างยั่งยืน
เมื่อพิจารณาว่าคูปองและส่วนลดเหมาะสำหรับธุรกิจของคุณหรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องประเมินทั้งประโยชน์และข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น คูปองสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มยอดขาย ดึงดูดลูกค้าใหม่ และสร้างความภักดี ตัวอย่างเช่น การศึกษาโดย RetailMeNot พบว่า 80% ของผู้บริโภคกล่าวว่าพวกเขารู้สึกได้รับการกระตุ้นให้ซื้อสินค้ากับแบรนด์เป็นครั้งแรก หากพวกเขาได้รับส่วนลดหรือคูปอง
อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้วางกลยุทธ์สำหรับ คูปองและส่วนลดอาจส่งผลเสียต่อกำไร หรือทำให้แบรนด์ลดคุณค่าลงได้ แบรนด์ควรกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน แบรนด์กำลังดึงดูดฐานลูกค้าใหม่ หรือกระตุ้นการซื้อซ้ำหรือไม่? คูปองมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะสั้น ดังนั้นการจัดตำแหน่งให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เฉพาะจึงเป็นสิ่งสำคัญ
นี่เป็นหนึ่งในรูปแบบส่วนลดที่พบบ่อยที่สุด การเสนอส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาสินค้าเป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดลูกค้าที่คำนึงถึงงบประมาณ ตัวอย่างเช่น การเสนอ “ส่วนลด 20% สำหรับสินค้าทั้งหมด” สามารถกระตุ้นยอดขายได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการเข้าชมสูง เช่น วันหยุด ร้านอาหารอย่างคูปอง kfc มักใช้ส่วนลดตามเปอร์เซ็นต์เพื่อระบายสินค้าคงคลังตามฤดูกาล
แตกต่างจากส่วนลดเปอร์เซ็นต์ ส่วนลดเหล่านี้ให้ส่วนลดเป็นจำนวนเงินคงที่จากการซื้อ ตัวอย่างเช่น “ลด 50 บาท จากคำสั่งซื้อมากกว่า 500 บาท” สามารถกระตุ้นให้มูลค่าคำสั่งซื้อสูงขึ้น กลยุทธ์นี้ใช้ได้ผลดีสำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซและร้านอาหาร เช่น คูปอง ลาซา ด้า ซึ่งการกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายในจำนวนที่กำหนดเป็นกุญแจสำคัญ
การเสนอสินค้าฟรีพร้อมกับการซื้ออาจน่าสนใจกว่าส่วนลด แบรนด์อย่าง Sephora ใช้กลยุทธ์นี้โดยนำเสนอตัวอย่างความงามฟรีทุกครั้งที่ซื้อ สร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่น่าจดจำ ต้นทุนของของขวัญฟรีถูกชดเชยด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นหรือการมีส่วนร่วมของลูกค้า
ธุรกิจที่ให้บริการ เช่น ร้านเสริมสวยหรือศูนย์ออกกำลังกาย สามารถดึงดูดลูกค้าได้โดยเสนอ session หรือบริการฟรี ตัวอย่างเช่น ฟิตเนสเสนอบริการตรวจสอบสมรรถภาพร่างกายฟรีเมื่อลูกค้าสมัครสมาชิกรายเดือน
ส่วนลดปกติ เช่น คูปองรายสัปดาห์หรือรายเดือน สร้างความคาดหวังและกิจวัตรสำหรับลูกค้า ตัวอย่างเช่น ร้านหนังสือออนไลน์สามารถเสนอ “ส่วนลด 10% สำหรับหนังสือขายดีทั้งหมดทุกวันศุกร์” เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าประจำจะกลับมาซื้อซ้ำ โปรโมชั่นรายสัปดาห์ยังสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมทางอีเมล์หรือทางไลน์ได้
การปรับส่วนลดให้เหมาะกับวันหยุดเฉพาะสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น คูปอง “Black Friday” หรือ “New Year Sale” สามารถสร้างได้ทันที เช่น คูปอง ส่วนลด lazada
เมื่อเปิดตัวสินค้าใหม่ ให้เสนอคูปองแนะนำพิเศษ แบรนด์อย่าง Apple แทบจะไม่ลดราคาสินค้าหลัก แต่การเสนอโปรโมชั่นสำหรับอุปกรณ์เสริมสำหรับรุ่นใหม่ เช่น ส่วนลดสำหรับเคสเมื่อซื้อ iPhone รุ่นล่าสุด สามารถกระตุ้นยอดขายและเพิ่มความภักดีของลูกค้า
การตั้งค่าจำนวนเงินขั้นต่ำในการสั่งซื้อสามารถเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยได้ ตัวอย่างเช่น การเสนอ ส่วนลด 50 บาท จากคำสั่งซื้อมากกว่า 1000 บาท กระตุ้นให้ลูกค้าเพิ่มสินค้าลงในรถเข็นเพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับส่วนลด ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าการขายทั้งหมด
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสามารถกระตุ้น Conversion ที่สูงขึ้นได้โดยเสนอคูปองออนไลน์พิเศษ ตัวอย่างคือ Nike ซึ่งมักจะส่งส่วนลด “เฉพาะทางออนไลน์” เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าโดยตรงจากเว็บไซต์ ลดการพึ่งพา Third-party Ecommerce Platform และเพิ่มผลกำไร
คูปองสามารถใช้เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ภักดีในระหว่างกิจกรรมพิเศษ เช่น แบบสำรวจหรือโปรแกรมแนะนำเพื่อน ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าทำการรีวิวสินค้าเสร็จแล้ว ให้รางวัลพวกเขาด้วยคูปอง “ขอบคุณ” Starbucks ใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกัน โดยให้รางวัลแก่สมาชิกสำหรับการให้ข้อเสนอแนะบนแอป
ด้วยการรวมคูปองเข้ากับโปรแกรมความภักดี ธุรกิจต่างๆ สามารถกระตุ้นการซื้อซ้ำได้อีก ตัวอย่างเช่น Rocket Loyalty CRM 4.0 ช่วยให้คุณออกคูปองส่วนบุคคลตามพฤติกรรมของลูกค้า สิ่งนี้กระตุ้นให้ลูกค้าสะสมคะแนน แลกคะแนนเป็นคูปอง และกลับมาซื้อสินค้าเพิ่มเติม
Rocket Loyalty CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถออกคูปองแจกฟรี ซึ่งเหมาะสำหรับการกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเสนอของหวานฟรีที่ร้านอาหารสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการครั้งแรก คุณสมบัตินี้ช่วยสร้างความรู้สึกขอบคุณและภักดีตั้งแต่เริ่มต้น
คุณสมบัตินี้ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างคูปองที่คำนึงถึงเวลาเพื่อกระตุ้นความเร่งด่วน ตัวอย่างเช่น ผู้ค้าปลีกแฟชั่นอาจสร้าง “FlashSale 24 ชั่วโมง” สำหรับลูกค้าประจำ โดยเสนอส่วนลดเพิ่มอีก 15% วิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มยอดขายภายในระยะเวลาอันสั้น
คูปองพิเศษกำหนดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าหลัก เช่น VIP หรือผู้ซื้อบ่อย Rocket Loyalty CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งข้อเสนอพิเศษเพื่อตอบแทนลูกค้าที่ภักดีที่สุด เช่น ส่วนลด “เดือนเกิด” ข้อเสนอพิเศษเหล่านี้สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งขึ้นและสร้างความรู้สึกประทับใจ
Rocket Loyalty CRM ยังรองรับการทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นๆ ผ่านคูปองพันธมิตร ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟสามารถร่วมมือกับร้านหนังสือเพื่อเสนอคูปอง “ซื้อหนังสือ รับกาแฟฟรี” กลยุทธ์นี้ช่วยขยายฐานลูกค้าสำหรับทั้งสองธุรกิจและส่งเสริมการส่งเสริมการขายข้ามกัน
ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน คูปองส่วนลดสามารถเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพเมื่อใช้ด้วยวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ที่ชัดเจน ตั้งแต่ส่วนลดตามเปอร์เซ็นต์ไปจนถึงของขวัญฟรี คูปองประเภทต่างๆ มีข้อดีที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ ด้วยการเสนอส่วนลดรายสัปดาห์ โปรโมชั่นวันหยุด หรือการใช้สิ่งจูงใจในการสั่งซื้อขั้นต่ำ แบรนด์ต่างๆ ไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มยอดขายได้ แต่ยังสามารถสร้างความภักดีของลูกค้าได้อีกด้วย นอกจากนี้ ด้วยเครื่องมือ CRM อย่างเช่น Rocket Loyalty CRM 4.0 ธุรกิจต่างๆ สามารถออกคูปองที่ปรับแต่งได้ เช่น คูปองพันธมิตรหรือคูปองแจก เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว การรวมคูปองเข้ากับกลยุทธ์ความภักดีที่มีการวางแผนมาอย่างดีสามารถช่วยนักการตลาดดึงดูดลูกค้าใหม่ เพิ่มความถี่ในการซื้อ และเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาวได้
Contact us now