อย่าเพิ่งทำการตลาดออนไลน์ ถ้ายังไม่รู้ 5 สิ่งนี้!

อย่าเพิ่งทำการตลาดออนไลน์ ถ้ายังไม่รู้ 5 สิ่งนี้!

15 ธันวาคม, 2022

อย่าเพิ่งทำการตลาดออนไลน์ ถ้ายังไม่รู้ 5 สิ่งนี้!


ในยุคสมัยที่การแข่งขันทำการตลาดออนไลน์สูงขึ้น ไม่ว่าจากผู้ประกอบการสมัยใหม่แน่นเทคนิค หรือบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งอัดค่าแอดสูงจน SME ยากที่จะแข่งขันได้ การทำการตลาดออนไลน์ ไม่ใช่เพียงแค่ทำกราฟฟิค คิดแคปชั่น ตั้งกลุ่มเป้าหมาย และปล่อยให้แอดรันไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าคุณกำลังทำการตลาดหรือรันแอดแบบพื้นฐานอย่างนี้อยู่ เราแนะนำให้คุณหยุดทันที! 

การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่ซับซ้อนกว่านั้น  ในบทความนี้ เราจึงมี 5 สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มรันแอดเอง ซึ่งดึงมาจากประสบการณ์ Rocket Digital เองที่ได้รันแอดไปแล้วกว่าร้อยล้านบาท ให้ลูกค้ากว่า 500 เจ้า การันตีเลยว่า หากคุณเข้าใจ 5 สิ่งนี้แล้วนำไปใช้งานจริง แคมเปญของคุณจะดีไม่แพ้บริษัทยักษ์ใหญ่เลย และจะเป็นความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด

1. รู้ Marketing Funnel (กรวยการตัดสินใจลูกค้า) ของธุรกิจคุณ แบบลึกซึ้ง 

การทำโฆษณานั้นไม่ใช่แค่ทำกราฟฟิคขายสินค้า (selling banner) เขียนแคปชั่นประกอบ และหวังว่าคนที่เห็นจะมากดซื้อหรือทักแชทในทันที การตัดสินใจของลูกค้านั้นมีความซับซ้อนมากกว่านี้ ลูกค้าอาจเห็นโฆษณาครั้งแรกและยังไม่ได้ตัดสินใจเพียงแค่รู้จักแบรนด์เท่านั้น  หลังจากเห็นแอดอีกครั้งหนึ่งค่อยพิจารณา มีการเปรียบเทียบราคา คิดถึงประโยชน์ข้อแตกต่าง ดูโปรโมชั่น ดูรีวิว แล้วจึงค่อยเกิดการตัดสินใจซื้อ แคมเปญของคุณนั้นจึงต้องซับซ้อนตามการตัดสินใจของลูกค้า

ตัวอย่างง่ายๆเช่น คุณเป็นบริษัททัวร์ไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาจวางกรวยให้เปิดด้วยคอนเทนต์ความรู้ (สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ควรไปฤดูไหน ช่วงไหนของปี มีสิ่งไหนที่ห้ามพลาด) เมื่อสร้างความสนใจเบื้องต้นให้กับลูกค้าแล้ว คอยนำเสนอแพ็คเกจทัวร์ ซึ่งตรงนี้ต้องคำนึงถึงว่าลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าจากช่องทางไหน จะเป็น sales page กรอกฟอร์ม หรือทักแชท? แต่ละช่องทางควรใช้คอนเทนท์แอดที่ไม่เหมือนกัน และเหมาะกับช่องทางนั้นๆ ถ้าลูกค้าเห็นแอดการขายแล้วยังไม่ซื้อในทันทีเราจะยิงแอดหลอกหลอนอะไรให้เขากลับมาซื้อดี?

Marketing funnel นั้นแบ่งได้เป็นหลายส่วนได้แก่ : (1) awareness หรือการรับรู้ (2) consideration หรือการพิจารณา (3) conversion การซื้อ (4) loyalty ความภักดี (5) advocacy หรือการบอกต่อ  ซึ่งแน่นอนแต่ละประเภทธุรกิจจะมี funnel ที่แตกต่างกันไปตามกระบวนการการตัดสินใจของลูกค้าธุรกิจนั้นๆ 

 

2. ทำ Remarketing (แอดหลอกหลอน) อย่างชาญฉลาด

กว่า 95% ของลูกค้ามักจะไม่ซื้อสินค้าจากการพบเห็นในครั้งแรก ดังนั้นแล้วขั้นตอน remarketing จึงสำคัญเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น คุณส่งโฆษณาชุดแรกเป็นความรู้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไปแล้ว ลูกค้ารู้จักแบรนด์ของคุณแล้ว แต่ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการตัดสินใจ คุณจึงต้องมีคอนเทนต์ที่สองซึ่งเน้นไปที่การขายตามมา และนำส่งโฆษณาไปยังคนเคยเห็นโฆษณาชุดแรกอยู่แล้วเพื่อตอกย้ำและกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อ

รู้ไหมบทความที่คุณอ่านอยู่ เป็น Remarketing Funnel เหมือนกัน! สเต็ปแรกคุณเห็น banner บนเฟสบุ๊ค จากนั้นกดเข้ามาอ่านบทความนี้เพื่อได้ความรู้ นี่ถือเป็นการเปิด funnel หลังจากนั้นเราจะนำรายชื่อผู้อ่านบทความไปยิงแอดชุดที่สองซึ่งเป็นแอดขายบริการเอเจนซี่ เมื่อคุณอ่านจบแล้วหลังจากนั้นอีก 7 วัน คุณจะได้เห็น remarketing ad เราต่อ อย่าลืมกดดูด้วยนะ 😉

 

3. หา “คอนเทนท์นางฟ้า” ของคุณให้เจอ

คุณรู้หรือไม่ ว่าความสำเร็จของโฆษณาของคุณนั้น เป็นผลมาจากคอนเทนท์มากกว่าครึ่ง ซึ่งถ้าคอนเทนท์ไม่ดี แม้ว่าคุณจะ optimize  อย่างละเอียด หรือ remarketing ขั้นเทพแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ เพราะโฆษณาทำให้ผู้คนพบเห็นแต่คอนเทนท์จะทำให้คนตัดสินใจซื้อ

การทำคอนเทนต์นางฟ้าหรือสุดยอดคอนเทนท์นั้น ไม่ใช่แค่การถ่ายคลิปและตัดต่อแบบเร็วๆ คอนเทนต์จะต้องมีการคิด concept ไว้อย่างชัดเจน แบ่งเป็นแต่ละส่วนที่มีจุดประสงค์ของการสื่อสารต่างกัน โดยหลักแล้วคอนเทนท์วิดีโอหรือบล็อกควรแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1.โดนใจ 2.เข้าใจ 3.เชื่อใจ และ 4.ตัดสินใจ ก่อนถ่ายทำควรมีสตอรี่บอร์ดอยากชัดเจน มีนักแสดง และ location ที่เหมาะสมกับสินค้า หรือธุรกิจของคุณ

 

4. ต้องรู้ Ads metrics

หลังจากรัน Ads ไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปคืออะไร? คุณต้องเฝ้าติตตาม Ads ว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีหรือไม่ จำนวน lead หรือคนที่ทักเข้ามามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน และ cost per result (ต้นทุนต่อ lead) สูงเกินหรือไม่ หรือถ้าจำนวน lead น้อย ต้นทุนสูงการยิงแอดก็ไม่สำเร็จ

แต่รู้เพียงแค่นี้ยังไม่เพียงพอ…

 คุณต้องรู้ด้วยว่า ทำไมถึงไม่สำเร็จ และจะต้องปรับอย่างไรให้เกิดความสำเร็จ หรือถ้าโฆษณาประสบความสำเร็จอยู่แล้ว คุณจำเป็นต้องรู้ว่าทำไมโฆษณาถึงสำเร็จได้ นี่คือรายละเอียดของ ads metrics ซึ่งจะสามารถทำให้คุณรู้ได้ว่าส่วนใดที่ดีอยู่แล้ว หรือส่วนใดที่ไม่ดี คุณควรปรับปรุงแก้ไขตรงจุดไหนหรือไม่
ตัวอย่างเช่น CPM บ่งชี้ว่า โฆษณาของคุณแสดงผลมากน้อยเพียงไหน น่าสนใจมากพอหรือไม่ มี Engagement ได้ตามที่ต้องการหรือเปล่า หรือคนแค่ดูหรือเห็นแล้วปล่อยผ่านไป สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าโฆษณาอาจจะไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย หรือคอนเทนต์ไม่ดีพอ 

หรือ CTR ถ้ามีคนพบเห็นเยอะ แต่คนไม่คลิกเข้าไป ทำให้ CTR ต่ำ จะส่งผลให้ค่าโฆษณาของคุณแพงขึ้นไปอีก

Conversion rate คือการที่คนคลิกเข้าไปแล้วแสดงให้เห็นว่า สิ่งนั้นตอบโจทย์พวกเขาหรือไม่ และทำให้คนเหล่านั้นตัดสินใจซื้อหรือไม่

สรุปคือคุณสามารถติดตามได้ในแต่ละส่วนว่าตรงไหนที่ทำให้แอดราคาสูงหรือตรงไหนค่าต่ำและไปปรับปรุงตรงจุดนั้น โดยคุณต้องรู้ด้วยว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ และเพราะอะไร

 

5. ต้องรู้ว่าใช้ระบบ CRM อย่างไรเพื่อกระตุ้นการซื้อซ้ำ 

ความสำคัญของการทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำนั้น อาจจะมากกว่าหรือเท่ากับการหาลูกค้ารายใหม่เลยทีเดียว เราจะอธิบายง่ายๆ เพื่อให้คุณเข้าใจ อยากให้คุณลองจินตนาการดูว่า หากคุณขายของหนึ่งชิ้นได้ 100 บาท แล้วลูกค้าซื้อแค่ครั้งเดียว นั่นหมายความว่า ต่อลูกค้าใหม่หนึ่งคนคุณก็ได้แค่ 100 บาท และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ คุณไม่สามารถเซ็ท Cost ค่า Ads ให้สูงกว่า 100 บาทได้

แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณทำให้ลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่ครั้งเดียวแต่กลับมาซื้อ 5 ครั้งล่ะ?! ไม่ใช่แค่คุณได้รายได้ 500 บาทต่อลูกค้าหนึ่งราย แต่หมายความว่า คุณสามารถรับ Cost per lead ที่สูงขึ้นได้มากถึง 5 เท่า โดยที่ไม่ขาดทุนด้วย และหากคุณเซ็ต Bid ads ที่ 500 บาท จะไม่มีใครพบเห็นโฆษณาของคู่แข่งของคุณเลย เพราะคู่แข่งจะสามารถ Bid ได้เพียง 100 บาทเท่านั้น

 

สรุปหมายความว่าคนที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้นั้น ไม่ใช่แค่รายได้เยอะกว่า แต่จะสามารถประมูล (bid) ค่าโฆษณาได้สูงกว่าคู่แข่ง และดันแอดของคู่แข่งลง (แต่ในทางกลับกันถ้าคู่แข่งกระตุ้นการซื้อซ้ำได้แต่คุณทำไม่ได้เขาก็จะดันแอดคุณลง!) 

สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญในการรันโฆษณาก็คือ การบริหารจัดการฐานลูกค้าและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำแบบเป็นระบบ ไม่ใช่เพียงแค่คอยหาแต่ลูกค้าใหม่
แล้วคุณจะปรับใช้การรันแอดรูปแบบนี้ไปกับระบบ CRM ได้อย่างไร?
ไม่ต้องกังวลใจ เพราะ Rocket Digital เรามีคำตอบให้คุณแล้ว เพราะ Rocket Digital เราไม่ใช่แค่เอเจนซี่รับทำการตลาดออนไลน์ แต่เราผลิตระบบสมาชิกสะสมแต้ม (Loyalty CRM) พร้อมสร้างความภักดีให้กับลูกค้าของคุณ ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ 

 

สรุป 

จากที่คุณคิดว่าโฆษณาร้านค้านั้นง่ายๆ เราบอกได้เลยว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการรันแอดต้องรู้เทคนิคพิเศษที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นการรัน Ads ไม่ง่ายแต่คุณเองก็ทำได้เพียงแค่พยายามเรียนรู้เทคนิค… แต่สำหรับหลายธุรกิจอาจถือว่าเป็นการเริ่มจากศูนย์ ไปจ้างเด็กมาทำให้ก็เป็นการเสี่ยงลองผิดลองถูก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงิน และเวลาที่คุณต้องเสียไปกับสิ่งเหล่านี้ดังนั้น ให้ Rocket Digital ของเราช่วยดูแลคุณเถอะครับ Rocket เป็นเอเจนซี่การตลาดออนไลน์ชั้นนำแห่งไทย ยิงแอดมาแล้วกว่าร้อยล้านบาทให้ลูกค้ากว่าห้าร้อยเจ้าทั้งเล็กและใหญ่ ด้วยค่าใช้จ่ายต่อเดือนของ Rocket ต่ำกว่าสองหมื่นบาทคุณจะได้รับทั้งผู้เชี่ยวชาญที่จะมาดูแลแคมเปญการตลาดให้ในทุกด้าน ตั้งแต่การทำคอนเทนท์นางฟ้าไปจนถึงการทำ Branding, Optimize ads ในราคาที่เท่ากับค่าจ้างของเด็กจบใหม่เพียงแค่หนึ่งคน!

อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา


shapeshapeshape

ลงทะเบียน รับคำปรึกษาฟรี!

รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Martech และ Business Transformation

Rocket BLOG

MarTech knowledge to help you stay ahead of the curve.

archetype-loyalty-program

4 Archetype ของลูกค้า เพิ่มยอดขายให้พุ่งด้วยระบบสะสมแต้ม

เจาะลึกถึง Archetype ของลูกค้า ได้แก่ Idles, Influencers, Deals และ Ideals ด้วยการสร้าง Loyalty Prog…

#MARKETING
go-green-loyalty-program

แบรนด์ยุคใหม่ ไม่ Go Green ไม่ได้แล้ว

ในสภาพแวดล้อมการแข่งขันในปัจจุบัน Green Loyalty แบบ Go Green ไม่ใช่แค่ “สิ่งที่ดีที่จะมี&#8221…

#MARKETING
popmart-marketing

กลยุทธ์การตลาดร้าน POP MART ทำไมถึงขายดี

ร้าน pop mart ได้เข้ามาครองใจผู้คนทั่วโลกด้วยการผสมผสานระหว่างของเล่นศิลปะ วัฒนธรรมการสะสม ความลับสู…

#MARKETING

LINE

Call

Free trial

test

Contact

Contact us now

test

✓ Valid number ✕ Invalid number
This field is for validation purposes and should be left unchanged.

Stronger loyalty, through smarter engagement