รวมฟีเจอร์สุดฮิต จาก Rocket Loyalty CRM อธิบายครบแต่ละฟีเจอร์ คืออะไร ? ตั้งแต่การสะสมคะแนนแต่ละช่องทาง การสร้างแคมเปญ และการออกแบบหน้าระบบสมาชิก

รวมสรุปฟีเจอร์ยอดฮิตของ Rocket CRM

การรับแต้มคะแนน จากการอัปโหลดใบเสร็จ สแกน QR code เชื่อมผ่าน pos/erp และ ecommerce platform เพื่อนำคะแนนไปแลกของรางวัลรับคูปอง แลกคะแนน และส่วนลด

Rocket CRM ขอรวบรวมฟีเจอร์ใหม่ตลอดทั้งปีมี ฟีเจอร์ คืออะไร ที่ทีมของเราได้ทำการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งตลอดปีที่ผ่านมามาอัปเดตให้ทุกคนฟังกัน เพราะหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเราซุ่มพัฒนาฟีเจอร์ใหม่เยอะแค่ไหน ต้องบอกก่อนว่าการพัฒนาฟีเจอร์ของ Rocket CRM ในปีที่ผ่านมานั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าเราต้องการจะพัฒนาฟีเจอร์ที่ช่วย

  • ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์
  • แบรนด์เป็นเจ้าของข้อมูลลูกค้าอย่างแท้จริง
  • แบรนด์รู้จักลูกค้ามากขึ้น
  • สร้างลูกค้าขาประจำอย่างไม่มีสิ้นสุด
  • เพิ่มยอดขายให้แบรนด์อย่างยั่งยืน

โดยแต่ละฟีเจอร์ คืออะไร ? ที่ลูกค้าขอขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้ทุกธุรกิจทำงานหลังบ้านได้ง่ายและราบรื่นขึ้น อีกทั้งสามารถนำไปพัฒนาแผนการตลาด แผนการขายได้อย่างติดปีกอีกด้วย จะมีฟีเจอร์ไหนบ้าง ไล่อ่านกันได้เลยค่ะ

Earn point from purchase

ฟีเจอร์ Earn Point from Purchase ของ Rocket Loyalty CRM เป็นระบบที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถสะสมคะแนนจากการซื้อสินค้าผ่านหลายช่องทาง เพื่อกระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำและเพิ่มความผูกพันของลูกค้ากับแบรนด์ โดยลูกค้าสามารถสะสมคะแนนได้ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้:

  • Ecommerce: เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ E-commerce ของแบรนด์ ระบบจะคำนวณคะแนนสะสมตามจำนวนเงินที่ใช้ไป หรือโปรโมชั่นที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถเห็นยอดคะแนนได้ทันทีหลังจากการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น
    เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ E-commerce ของแบรนด์ ระบบจะคำนวณคะแนนสะสมตามจำนวนเงินที่ใช้ไป หรือโปรโมชั่นที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถเห็นยอดคะแนนได้ทันทีหลังจากการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น
  • Marketplace: หากแบรนด์มีสินค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์ม Marketplace เช่น Shopee หรือ Lazada Rocket Loyalty CRM สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อให้ลูกค้าสามารถสะสมคะแนนจากการซื้อผ่าน Marketplace ได้เช่นกัน

หากแบรนด์มีสินค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์ม Marketplace เช่น Shopee หรือ Lazada Rocket Loyalty CRM สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อให้ลูกค้าสามารถสะสมคะแนนจากการซื้อผ่าน Marketplace ได้เช่นกัน

  • อัปโหลดใบเสร็จ: ลูกค้าสามารถสะสมคะแนนได้ง่ายๆ โดยการอัปโหลดรูปถ่ายใบเสร็จหลังจากการซื้อสินค้าที่ร้านค้าหรือจากช่องทางอื่นๆ ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของแบรนด์ จากนั้นระบบจะตรวจสอบข้อมูลใบเสร็จและเพิ่มคะแนนให้กับลูกค้าโดยอัตโนมัติ

การอัปโหลดรูปถ่ายใบเสร็จหลังจากการซื้อสินค้าที่ร้านค้าหรือจากช่องทางอื่นๆ ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของแบรนด์ จากนั้นระบบจะตรวจสอบข้อมูลใบเสร็จและเพิ่มคะแนนให้กับลูกค้าโดยอัตโนมัติ

  • สแกน QR Code: ในกรณีที่ลูกค้าซื้อสินค้าที่หน้าร้านหรือจุดจำหน่ายที่ร่วมรายการ ลูกค้าสามารถสะสมคะแนนได้โดยการสแกน QR Code ที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจอยู่บนใบเสร็จหรือผลิตภัณฑ์ เพื่อทำการเพิ่มคะแนนเข้าบัญชีของลูกค้าได้ทันที

สะสมคะแนนได้โดยการสแกน QR Code ที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจอยู่บนใบเสร็จหรือผลิตภัณฑ์ เพื่อทำการเพิ่มคะแนนเข้าบัญชีของลูกค้าได้ทันที

Campaigns

แคมเปญ ฟีเจอร์ คืออะไรบ้าง ? ฟีเจอร์การสร้างแคมเปญ ได้แก่ Mission, Lucky Draw, และ Top Spender ของ Rocket Loyalty CRM เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า โดยการสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจ และกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแลกของรางวัลหรือสิทธิพิเศษ ซึ่งแต่ละฟีเจอร์มีการทำงานที่แตกต่างกันดังนี้:

  1. Mission Campaign (แคมเปญภารกิจ)แบรนด์สามารถกำหนดภารกิจหรือกิจกรรมต่างๆ ให้ลูกค้าทำตามเพื่อรับรางวัล เช่น สะสมแต้มพิเศษ คูปองส่วนลด หรือของขวัญพิเศษฟีเจอร์นี้ช่วยให้แบรนด์สามารถกำหนดภารกิจหรือกิจกรรมต่างๆ ให้ลูกค้าทำตามเพื่อรับรางวัล เช่น สะสมแต้มพิเศษ คูปองส่วนลด หรือของขวัญพิเศษ ซึ่งภารกิจสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของแบรนด์ ตัวอย่างเช่น:
    ตัวอย่างแคมเปญภารกิจ: แบรนด์อาจสร้างภารกิจให้ลูกค้าซื้อสินค้าครบ 500 บาทในหนึ่งสัปดาห์ และกดรีวิวสินค้าที่ซื้อ ลูกค้าที่ทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์จะได้รับคะแนนพิเศษ 50 แต้มเป็นรางวัล
    ลักษณะการทำงาน: ลูกค้าสามารถเข้าดูรายละเอียดภารกิจผ่านแอปหรือเว็บไซต์ของแบรนด์ และติดตามความคืบหน้าของตนเอง เมื่อทำภารกิจครบถ้วน ระบบจะเพิ่มรางวัลเข้าบัญชีลูกค้าอัตโนมัติ
    ประโยชน์: ฟีเจอร์นี้ช่วยกระตุ้นการซื้อซ้ำ การมีส่วนร่วม และเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
  2. Lucky Draw Campaign (แคมเปญจับรางวัล)แคมเปญที่ให้ลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อแลกรับสิทธิ์จับรางวัล ฟีเจอร์ Lucky Draw เป็นแคมเปญที่ให้ลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อแลกรับสิทธิ์จับรางวัล ซึ่งรางวัลอาจเป็นสินค้า ของขวัญพิเศษ หรือส่วนลด ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์นี้ได้แก่:
    ตัวอย่างแคมเปญจับรางวัล: แบรนด์อาจสร้างแคมเปญจับรางวัลสำหรับลูกค้าที่ใช้ 100 คะแนนสะสมเพื่อแลกสิทธิ์จับรางวัล รางวัลอาจเป็นการชนะสินค้าชิ้นใหญ่หรือการให้ของขวัญพิเศษ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือบัตรกำนัล
    ลักษณะการทำงาน: ลูกค้าสามารถเลือกใช้คะแนนสะสมในการแลกสิทธิ์จับรางวัลผ่านแพลตฟอร์ม Rocket Loyalty CRM และระบบจะทำการสุ่มผู้โชคดีในช่วงเวลาที่กำหนด จากนั้นจะแจ้งผลให้ลูกค้าทราบผ่านช่องทางต่างๆ
    ประโยชน์: Lucky Draw ช่วยสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรม เพิ่มความรู้สึกถึงความพิเศษ และสร้างความภักดีต่อแบรนด์
  3. Top Spender Campaign (แคมเปญลูกค้าใช้จ่ายสูงสุด)แคมเปญนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมการซื้อสินค้าและการใช้จ่ายของลูกค้า โดยการให้รางวัลแก่ลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด แคมเปญนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมการซื้อสินค้าและการใช้จ่ายของลูกค้า โดยการให้รางวัลแก่ลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์นี้คือ:
    ตัวอย่างแคมเปญ Top Spender: แบรนด์อาจกำหนดแคมเปญสำหรับเดือนหนึ่ง ให้รางวัลกับลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด 10 อันดับแรกในช่วงเวลานั้น เช่น การมอบบัตรของขวัญ 5,000 บาท หรือสิทธิ์ในการเลือกสินค้าพิเศษ
    ลักษณะการทำงาน: ระบบจะคำนวณยอดใช้จ่ายของลูกค้าในแต่ละรอบเวลา (เช่น รายสัปดาห์ รายเดือน) โดยลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดจะได้รับรางวัลตามที่กำหนด ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของตนเองผ่านแอปหรือเว็บไซต์ว่าตนอยู่ในอันดับใด
    ประโยชน์: ฟีเจอร์นี้ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้นและเป็นการแข่งขันกันในหมู่ลูกค้าเพื่อรับรางวัล ส่งเสริมการสร้างความพึงพอใจในระยะยาว
    ฟีเจอร์เหล่านี้ของ Rocket Loyalty CRM ไม่เพียงแต่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้า แต่ยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น เพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ และสร้างความพิเศษให้กับลูกค้า

Customize Member Profile

ฟีเจอร์ Customize Member Profile ของ Rocket Loyalty CRM ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างโปรไฟล์สมาชิกที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ เพื่อให้แบรนด์สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น ฟีเจอร์นี้มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างระบบสะสมคะแนนที่ตอบโจทย์ตามพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม สามารถ plug in กับ website ภายนอกได้ด้วย เพื่อทำให้หน้า member profile เป็น Engagement Hub สำหรับลูกค้าในการเข้าถึงข้อมูลทุกช่องทางของแบรนด์ ตัวอย่างฟีเจอร์นี้สามารถอธิบายได้อย่างละเอียดดังนี้:

  1. ปรับแต่งฟิลด์ข้อมูลสมาชิก
    แบรนด์สามารถเลือกปรับแต่งฟิลด์ข้อมูลในโปรไฟล์สมาชิกตามที่ต้องการ โดยอาจมีฟิลด์ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และฟิลด์ที่ปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อการเก็บข้อมูลเชิงลึก เช่น
    ตัวอย่างฟิลด์เพิ่มเติม: ข้อมูลความสนใจ (เช่น สนใจสินค้าประเภทใด), วันเกิด (เพื่อใช้ในการส่งโปรโมชันวันเกิด), ช่องทางการสื่อสารที่ชอบ (SMS, หรือ Line)
    ลักษณะการทำงาน: Rocket Loyalty CRM สะสม แต้ม แลก ของ รางวัล ช่วยให้แบรนด์สร้างฟิลด์ใหม่ในโปรไฟล์สมาชิกตามที่ต้องการ และข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อใช้ในการทำการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
  2. เก็บข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อ
    นอกจากข้อมูลส่วนตัวแล้ว แบรนด์ยังสามารถเก็บข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อของสมาชิกผ่านฟีเจอร์นี้ เช่น
    ตัวอย่างการเก็บข้อมูลพฤติกรรม: ลูกค้าคนหนึ่งมักจะซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบ่อยครั้ง ระบบสามารถบันทึกประเภทสินค้าและช่วงเวลาที่ลูกค้าชอบซื้อ เช่น ลูกค้าชอบซื้อในช่วงโปรโมชั่นสิ้นปี
    ลักษณะการทำงาน: ระบบจะทำการเก็บข้อมูลทุกครั้งที่ลูกค้าทำการซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาใช้เพื่อทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงในอนาคต เช่น การส่งโปรโมชันสินค้าที่ตรงกับความชอบของลูกค้า
  3. แบ่งกลุ่มสมาชิกตามโปรไฟล์และพฤติกรรม
    ฟีเจอร์นี้ช่วยให้แบรนด์สามารถแบ่งกลุ่มสมาชิกตามโปรไฟล์และพฤติกรรมที่เก็บได้ เช่น การใช้จ่ายรวม พฤติกรรมการซื้อ หรือความถี่ในการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น
    ตัวอย่างการแบ่งกลุ่มสมาชิก: แบรนด์อาจแบ่งสมาชิกออกเป็นกลุ่มลูกค้าประจำที่ใช้จ่ายสูงสุด (Top Spenders) หรือกลุ่มลูกค้าที่ซื้อน้อยแต่บ่อย (Frequent Buyers) เพื่อสร้างแคมเปญการตลาดที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละกลุ่ม
    ลักษณะการทำงาน: ระบบจะทำการวิเคราะห์และแบ่งกลุ่มสมาชิกโดยอัตโนมัติ แบรนด์สามารถเลือกส่งโปรโมชันหรือสิทธิพิเศษให้กับแต่ละกลุ่มตามความเหมาะสม ซึ่งช่วยให้การตลาดมีความตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  4. การปรับแต่งระดับสมาชิก (Membership Tier)
    ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างระบบระดับสมาชิก (Tier) ที่ปรับแต่งได้ตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เช่น
    ตัวอย่างระดับสมาชิก: แบรนด์อาจสร้างระดับสมาชิก 3 ระดับ เช่น Bronze, Silver, และ Gold โดยระดับที่สูงกว่าจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น ส่วนลดพิเศษ, คะแนนสะสมที่เพิ่มขึ้น, หรือการเข้าถึงสินค้าลิมิเต็ดที่ออกก่อนใคร
    ลักษณะการทำงาน: Rocket Loyalty CRM จะทำการคำนวณระดับสมาชิกโดยอัตโนมัติ โดยพิจารณาจากยอดใช้จ่าย คะแนนสะสม หรือเงื่อนไขที่แบรนด์กำหนด ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของตนเองและดูสิทธิพิเศษที่ตนได้รับได้จากโปรไฟล์ส่วนตัว
  5. การอัปเดตข้อมูลสมาชิกแบบเรียลไทม์
    Rocket Loyalty CRM ยังรองรับการอัปเดตข้อมูลสมาชิกแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ข้อมูลที่เก็บอยู่เสมอถูกต้องและทันสมัย เช่น
    ตัวอย่างการอัปเดตข้อมูล: ลูกค้าสามารถเข้าไปอัปเดตข้อมูลส่วนตัว เช่น ที่อยู่จัดส่ง, อีเมล, หรือช่องทางการติดต่อที่เปลี่ยนแปลงได้ด้วยตนเองผ่านแอปหรือเว็บไซต์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกอัปเดตทันทีในระบบ
    ลักษณะการทำงาน: ระบบจะทำการบันทึกการอัปเดตข้อมูลแบบอัตโนมัติ และแบรนด์สามารถนำข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดไปใช้ในการจัดส่งสินค้า ส่งโปรโมชั่น หรือการทำการตลาดในอนาคต

Contact Image

Rocket Loyalty CRM

เพิ่มยอดขายและลูกค้าประจำด้วย Rocket Loyalty CRM บริหารและแบ่งระดับสมาชิก สร้างของรางวัล คูปองและกระตุ้นยอดขาย ประทับใจลูกค้าไม่แพ้บริษัทยักษ์ใหญ่