1 พฤศจิกายน, 2022
ต้นทุนเป็นเรื่องสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และที่ต้องลงทุนเยอะนั่นก็คือการโฆษณานั่นเอง และในปัจจุบันการที่แบรนด์หรือธุรกิจนั้นจะทำการตลาดแน่นอนว่าต้องทำบนโลกออนไลน์เป็นหลัก เพราะในปัจจุบันผู้คนล้วนแต่ท่องโลกออนไลน์เป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน
เพราะฉะนั้นการวัดผลจากการโฆษณาก็สามารถทำได้โดยการวัดจากคลิก เพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนั้นก็มีการนับจากจำนวนคลิกบนระบบออนไลน์เช่นเดียวกัน สิ่งนี้คือหน่วยวัดหรือเมทริกซ์ที่กำหนดจำนวนเงินที่ต้องชำระผ่านการคลิกเรียกว่า CPC (ต้นทุนต่อการคลิก)
ยาวไปไม่อ่าน คลิกเลย
สำหรับใครก็ตามที่อยากจ้างทีม รับทำการตลาดออนไลน์ หรือ รับยิงแอด คงจะเคยได้ยิน CPC และสงสัยว่ามันคืออะไร
CPC นั้นย่อมาจาก Cost per Click หรือแปลเป็นไทยก็คือ ต้นทุนต่อคลิก กล่าวคือ เป็นจำนวนเงินที่ต้องชำระให้กับแพลตฟอร์มที่คุณลงโฆษณา โดยสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายได้เองต่อคลิก สามารถลงเงินมากกว่าผู้ลงโฆษณารายอื่นๆที่ทำธุรกิจแข่งกับคุณได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่โฆษณาด้วย สิ่งนี้สามารถช่วยชี้วัดการมองเห็นโฆษณาของคุณได้ด้วย
CPA คือ Cost per Acquisition หรือ Cost per Action เป็นการคิดค่าโฆษณาต่อหนึ่งการกระทำที่เกิดขึ้น หมายความว่าการคิดเงินจะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มเป้าหมายมีการคลิกเข้าไปในเว็บไซต์แล้วเกิดการกระทำบางอย่าง เช่น การสมัครสมาชิก การสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น
แต่ CPC คือ การคิดเงินเมื่อเกิดการคลิกบนโฆษณาที่เผยแพร่ออกไป
CPM ย่อมาจาก Cost per Thousand Impressions คือ จะเกิดการจ่ายเงินก็ต่อเมื่อโฆษณาที่ลงไปมีการแสดงผลใหเกับกลุ่มเป้าหมายครบ 1,000 ครั้ง โดยค่าโฆษณาจะราคาเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับระบบการประมูลของเว็บไซต์นั้นๆ
PPC ย่อมาจาก Pay per Click คือ การโฆษณาบนเว็บไซต์ค้นหา หรือ Search Engine อย่าง Google หรือ Bing คิดค่าใช้จ่ายจากการคลิกตัวข้อความโฆษณา แต่ถ้าไม่มีการคลิก ก็จะไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น
แต่ CPC เกิดขึ้นบน Social Media ต่าง ๆ
ECPC ย่อมาจาก Enhanced CPC คือ วิธีการเสนอราคาที่จะปรับราคาให้สูงขึ้นก็ต่อเมื่อเจอกับคลิกที่มีแนวโน้มจะเกิด Conversion นี่จึงเป็นวิธีการที่เหมาะสมในการบริหารงบประมาณ นอกจากนี้ยังปรับลดลงเมื่อเจอกับคลิกที่มีโอกาสเกิด Conversion ต่ำหรือเจอกับคู่แข่งปรพเภทเดียวกันที่ลงทุนสูง
CPC เฉลี่ย คือ ค่าเฉลี่ยที่จะขึ้นอยู่กับต้นทุนต่อการคลิกที่จ่ายจริง จำนวนเงินที่เรียกเก็บเป็นค่าคลิกโฆษณา คือต้นทุนต่อคลิกโดยเฉลี่ย คำนวณได้โดยการหารค่าใช้จ่ายรวมของคลิกด้วยจำนวนคลิกทั้งหมด
ความสัมพันธ์ของ CPC ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำโฆษณาแคมเปญต่างๆบน Google เพราะหากต้นทุนในการคลิกสูง หมายความว่าธุรกิจกำลังเสียต้นทุนก็เกินความจำเป็นอยู่นั่นเอง ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับน้อยลง จึงควรที่จะมองหากลยุทธ์การปรับเปลี่ยนแคมเปญเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ราคาถูก ทั้งยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ข้อดีของ CPC
ข้อเสียของ CPC
การจ่ายเงินแบบ CPC ลักษณะคือ ไม่ว่าจะเป็นระบบโฆษณาบนแพลตฟอร์มไหน การจ่ายค่าโฆษณาจะคิดจากการคลิกของผู้ที่พบเห็นโฆษณา นับเป็นผลประโยชน์ที่สามารถจับต้องได้
เจ้าของโฆษณาสามารถกำหนดอัตราโฆษณาได้จากการคลิก เช่น กำหนดว่า CPC = 10 บาท เมื่อเกิดการคลิก 1 ครั้ง ก็จพต้องเสียเงินค่าโฆษณา 10 บาท ถ้าในช่วงเวลาที่กำหนดมีคนคลิกโฆษณา 100 ครั้ง ก็ต้องชำระค่าโฆษณาเท่ากับ 10×100 = 1,000 บาท โดยคุณสามารถกำหนดเพดานต้นทุนได้ด้วย หรือที่เรียกว่า Max CPC หรือ CPC สูงสุด
ราคาที่เพิ่มขึ้นต่อการประมูล CPC คือ การเพิ่มต้นทุนต่อการประมูลต่อคลิก ซึ่งแบรนด์กำหนดงบประมาณโดยรวมของตนแล้วมีการเสนอราคาโดยอัตโนมัติตามนั้น แพลตฟอร์มต่างๆจะใช้การประมูลอัตโนมัติเพื่อปรับราคาเสนอของคุณตาม Conversion
การประมูล CPC ด้วยตนเอง หรือ Manual CPC คือ แบรนด์จะเลือกจำนวนเงินประมูลเป็นรายตัว สำหรับตัวเลือกที่เป็นอัตโนมัติมากขึ้น แบรนด์สามารถใช้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นต่อการเสนอราคาต่อคลิกแทน
เมื่อพบว่าค่า CPC มีราคาแพง ควรทำอย่างไร?
เมื่อพบเหตุการณ์แบบนี้ขั้นตอนแรกต้องเพิ่ม Quality Score ให้มาดูที่ปัจจัยภายในก่อนสิ่งอื่น
หากพบว่าตัวโฆษณาไม่น่าดึงดูด ก็ต้องปรับด้วยการวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ และต้องออกแบบแอดให้น่าสนในมากยิ่งขึ้น แล้วต่อด้วยการลองปรับ Ad Group ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเลือกคีย์เวิร์ดที่คิดว่ากลุ่มเป้าหมายจะใช้ค้นหา แล้วทำการทดสอบ
CPC หรือ Cost per Click (ต้นทุนต่อคลิก) เป็นจำนวนเงินที่ต้องชำระให้กับแพลตฟอร์มที่คุณลงโฆษณา โดยสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายได้เองต่อคลิก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่โฆษณาด้วย สิ่งนี้สามารถช่วยชี้วัดการมองเห็นโฆษณาของคุณได้ด้วย โดยคุณสามารถกำหนดและควบคุมต้นทุนได้ด้วย
แต่หากใช้บริการ รับทำการตลาดออนไลน์ รับยิงแอด โดย Rocket Digital ก็จะทำให้เรื่องยิงแอดกลายเป็นเรื่องง่าย
Contact us now