เทรนด์และกลยุทธ์การตลาดจะเป็นอย่างไรในปี 2023

เทรนด์และกลยุทธ์การตลาดจะเป็นอย่างไรในปี 2023

ใกล้จะสิ้นปี 2022 และเตรียมต้อนรับปี 2023 ความเร็วในการพัฒนาเทคโนโลยีนั้นยิ่งทวีการเติบโตไปอย่างไม่รีรอ เพราะฉะนั้นแล้วเหล่านักการตลาดหรือแม้แต่เจ้าของกิจการหรือธุรกิจเอง ก็ต้องตั้งตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในทุกๆปี เพราะผู้บริโภคหรือลูกค้านั้นมีความต้องการที่เปลี่ยนไป และช่องทางในการติดต่อสื่อสารก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน เพราะฉะนั้นเพื่อให้เข้าใจลูกค้าหรือผู้บริโภคให้ดีเพื่อรู้ทันความเปลี่ยนแปลง Rocket Digital ขอนำเสนอเทรนด์และกลยุทธ์ของการตลาดออนไลน์หรือการตลาดบนโลกดิจิทัลที่กำลังจะมาถึงในปี 2023 นี้

13 เทรนด์และกลยุทธ์การตลาดในปี 2023

Rocket Digital ขอนำเสนอ 13 เทรนด์การตลาดที่น่าสนใจในปี 2023 ดังนี้

1. ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานต้องมาก่อน

ในยุคที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและง่ายดาย ความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานย่อมมีความสำคัญ ในปี 2023 แพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Facebook ก็ยังต้องมีการขออนุญาตการเข้าถึงและการเก็บข้อมูลก่อน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะให้ข้อมูลแบบไหนกับแพลตฟอร์มเหล่านั้นบ้าง และสามารถนำไปใช้งานได้หรือไม่ ดังนั้น เหล่านักการตลาดหรือท่านเจ้าของกิจการก็ย่อมต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของหน้า Website ของร้านค้าหรือธุรกิจที่ตะต้องมีการขออนุญาตผู้ใช้งานในการเก็บและใช้ข้อมูล นอกจากนี้ยังต้องมีการพัฒนาระบบเพื่อให้ทันสมัยและพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

2. ข้อมูลที่มาจากแพลตฟอร์มอื่นๆ หรือ Third-Party Cookie จะน้อยลง

ข้อมูลที่ได้รับมาจากแพลตฟอร์มอื่นๆ หรือ Ad Networks เช่น Facebook หรือ Google ที่แต่เดิมสามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีปริมาณมาก จึงทำให้เหล่านักการตลาดสามารถดึงหรือนำข้อมูลจากช่องทางเหล่านี้มาใช้ในการทำการตลาดออนไลน์หรือยิงโฆษณา แต่ในปัจจุบัน เนื่องด้วยกฎหมาย PDPA นั้นมีการประกาศใช้ในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าหรือเลือกได้เองว่าจะให้มีการเก็บข้อมูลการใช้งานของตนเองได้หรือไม่ ส่งผลโดยตรงให้การเก็บข้อมูลด้อยประสิทธิภาพลงไป และการวัดผลนั้นก็จะไม่แม่นยำอย่างที่เคยเป็นมา และ Google เองก็ยังได้มีประกาศออกมาอีกว่าจะยกเลิกเก็บ Cookie ในปี 2023 เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ดังนั้นแล้วนักการตลาดหรือผู้เจ้าของธุรกิจต้องมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลที่สามารถเก็บได้เอง หรือ First-Party Data เพื่อให้สามารถทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงได้ และสามารถตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

3. ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ยังคงบทบาทสำคัญในการทำการตลาด

AI หรือ Artificial Intelligence ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญกับการทำธุรกิจและการทำการตลาดในทุกๆประเภทอุตสาหกรรม เพราะ AI จะเข้ามามีส่วนช่วยธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการวิเคราะห์ต่างๆ การทำการตลาดหลาดหลายรูปแบบ และการปรับปรุงระบบอัลกอรึทึม นักการตลาดควรนำ AI มาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์ดังนี้ การยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำกว่าเดิม, การใช้ AI ในการคาดการณ์หรือพยากรณ์การตลาดในอนาคต, เข้าใจในความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย, กระตุ้นการกลับมาอุดหนุนหรือซื้อซ้ำ ปรับปรุง ROI ให้ดียิ่งกว่าเดิม

4. การโต้ตอบแบบ Real-Time เป็นการตลาดรูปแบบหลัก

แน่นอนว่าความพึงพอใจของลูกค้าและประสบการณ์ในการซื้อของลูกค้า คือสิ่งสำคัญที่แบรนด์หรือร้านค้าต้องการให้เกิดขึ้น และการใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆเพื่อให้สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างทันทีหรือ Real-Time เป็นวิธีการในการสร้างความพึงพอใจได้อย่างดี เพราะในยุคที่ความรวดเร็วและสะดวกง่ายดายต้องมาก่อนแบบนี้ การโต้ตอบแบบทันทีจะทำให้ไม่เสียโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการ

5. VR หรือ Virtual Reality มาแน่นอน

ในปี 2021 Meta ได้ออกแบบ Metaverse ขึ้นมา เพื่อผสานโลกเสมือนให้ลงตัวกับโลกแห่งความจริง เพราะฉะนั้นแล้ว การทำการตลาดในรูปแบบโลกเสมือนหรือ VR จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในปี 2023 อย่างแน่นอน และเป็นที่น่าสนใจว่าจะสามารถพัฒนาไปได้ไกลถึงเพียงไหน เพราะว่า ณ ขณะนี้ หลายๆแบรนด์ยักษ์ใหญ่มีการเริ่มเปิดใช้งาน VR ในการทำการตลาดส่งถึงผู้บริโภคไปเรียบร้อยแล้ว

6. Video และ Live Stream ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน การเลือกรับสื่อของเหล่าผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และสื่อประเภทวิดีโอก็เข้ามามีบทบาทกับการทำการตลาดในโลกออนไลน์มาสักพักแล้ว และยังคงพัฒนารูปแบบของวิดีโอให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งวิดีโอสั้นที่เป็นที่นิยมจากทั้ง TikTok และ Instagram หรือการ Live Stream ผ่าน Facebook หรือ YouTube และแบรนด์ทั้งหลายก็กระโจนเข้าสู่การทำการตลาดในรูปแบบนี้กันทุกแบรนด์ และแน่นอนว่าประเภทของคอนเทนต์วิดีโอยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2023 อย่างแน่นอน

7. การใช้ Influencer ในระยะยาว

การทำการตลาดแบบปากต่อปากหรือการบอกต่อ ยังคงเป็นวิธีการทางการตลาดที่ได้ผลและได้ประสิทธิภาพที่ดีมาก แม้จะใช้กันมาอย่างยาวนาน แล้วยิ่งถ้าเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ หรือมีชื่อเสียงก็จะยิ่งส่งผลดี เพราะฉะนั้นการใช้งานเหล่า Influencer ให้ช่วยโปรโมตสินค้าหรือบริการย่อมมีส่วนสำคัญในการทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความเชื่อมั่นและตัดสินใจซื้อ การเลือก Influencer ให้เหมาะสมกับแบรนด์และจุดประสงค์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในปัจจุบันมีคนดังที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากอยู่นับไม่ถ้วน เช่น เลือก Influencer ที่สไตล์, ภาพลักษณ์ หรือมีความเชี่ยวชาญ ที่ตรงกับแบรนด์

8. การสร้างคอนเทนต์ผ่านผู้บริโภคตัวจริง

การสร้างคอนเทนต์ผ่านผู้ที่เป็นผู้บริโภคหรือลูกค้าจริง หรือ User-Generate Content เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน อย่างที่พบเห็นทั่วไปก็จะเป็นการรีวิวสินค้าหรือบริการ การโพสต์ภาพและวิดีโอลงในแพลตฟอร์มโซเชียล ที่มีการกล่าวถึงแบรนด์และสินค้าหรือบริการ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอีกด้วย

9. Email ยังคงไม่ตายจากการทำการตลาด

การทำการตลาดผ่านอีเมลหรือ Email Marketing ยังคงเป็นช่องทางในการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่ ด้วยการส่งโปรโมชั่นและข่าวสารไปให้ถึงตัวของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นยอดขายจากการซื้อซ้ำ และเพิ่มการเข้าถึงของหน้าเว็บไซต์ได้อย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกคอนเทนต์ที่เหมาะสมในการส่งอีเมลก็สำคัญ และสามารถใช้เครื่องมือทางการตลาดเข้ามาช่วยให้สามารถส่งคอนเทนต์ออกไปได้ตรงใจลูกค้าได้อีกด้วย

10. ต่อยอดคำสั่งเสียงเพื่อพัฒนา SEO

การใช้คำสั่งเสียง หรือ Voice Search ในการค้นหาข้อมูลยังคงเติบโตอยู่เรื่อยๆ เพราะได้คำตอบที่รวดเร็วเพราะฉะนั้นการปรับปรุงพัฒนา SEO ให้ตอบโจทย์กับการใช้งานคำสั่งเสียงก็จะส่งผลดีในการทำการตลาดรูปแบบนี้ เว็บไซต์ Bloggingwizard รายงานว่าในปี 2022 กว่า 90% ของผู้ใช้งานโลกออนไลน์นิยมใช้คำสั่งเสียงในการค้นหาข้อมูลต่างๆมากกว่าการพิมพ์แบบปกติ และคาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2023

11. Page Speed ก็สำคัญไม่แพ้สิ่งอื่น

ประสบการณ์ของผู้ใช้นั้นเป็นสิ่งสำคัญ รวมไปถึงประสบการณ์บนหน้าเว็บไซต์ก็มีผล ทำให้ต้องมีการคำนึงอยู่เสมอ ความเร็วในการประมวลผลนั้นส่งผลต่อ SEO และ UX โดยตรง เพราะถ้าหากโหลดหน้าเว็บไซต์ช้าจนไม่เป็นที่พอใจ ก็อาจจะทำให้กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าหันไปหาคู่แข่งได้เสมอ

12. UX ต้องสดใหม่อยู่เสมอ

UX หรือ User Experience เป็นการคิดถึงประสบการณ์ของผู้ใช้งานหรือกลุ่มเป้าหมายที่ท่องโลกออนไลน์ เพราะหากว่าลูกค้าไม่พอใจกับการใช้งานหน้าเว็บไซต์ที่ไม่น่าดึงดูด ใช้งานยาก โหลดช้า ก็อาจจะส่งผลให้ลูกค้าหันไปอุดหนุนคู่แข่งได้ แม้ว่าสินค้าหรือบริการของคุณจะดีกว่าก็ตาม เพราะฉะนั้น UX จึงสำคัญมากและควรมีการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น มีหน้า Pop-up เพื่อการโปรโมตโปรโมชั่น การใช้งานที่สะดวกง่ายดาย การใช้คอนเทนต์หลายประเภทในการนำเสนอ การเล่าเรื่องราวด้วย Scrolly telling แม้กระทั่งความสวยงาม

13. ใช้บริการ Marketing Agency

การทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันมีความท้าทายและการแข่งขันในการตลาดที่สูงมาก การใช้งาน Agency หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดมาช่วยเหลือก็ย่อมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเอเจนซี่จะช่วยเหลือตลอดทั้งกระบวนการทางการตลาดตั้งแต่การให้คำปรึกษา การปรับปรุงกลยุทธ์ การคิดแคมเปญ การยิงโฆษณา รวมไปถึงการวัดผลลัพธ์และการปรับปรุงพัฒนากลยุทธ์ เพื่อให้ได้ยอดขายและเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับแบรนด์หรือร้านค้าของคุณ

โดย Rocket Digital ก็มี บริการทำการตลาดออนไลน์และรับยิงโฆษณา เช่นกัน

นี่คือเทรนด์และกลยุทธ์การตลาดปี 2023 ทั้งหมด 13 อย่าง ที่ Rocket Digital อยากจะให้ทั้งเหล่านักการตลาดหรือเจ้าของร้านค้าธุรกิจ สามารถนำไปใช้และต่อยอดธุรกิจของท่านต่อไป เพื่อให้สามารถต่อสู้กับคู่แข่งที่มีมากมายหลากหลายได้อย่างสูสี นอกจากนี้ท่านยังสามารถใช้ บริการทำการตลาดออนไลน์ และ รับยิงโฆษณา โดย Rocket มาเป็นตัวช่วยชั้นดีได้อีกด้วย

หากสนใจทำการตลาดออนไลน์ได้เสมือนบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่ารอช้า สามารถติดต่อ Rocket Digital ได้ทุกช่องทาง คลิกเลย >>> รับทำการตลาดออนไลน์ จ้างทีมการตลาดง่าย ๆ การันตีผลลัพธ์ | Rocket