ในปัจจุบันทั้งตัวแบรนด์และตัวของลูกค้าเองก็ต่างคาดหวังและมีความต้องการในการนำเสนอและได้รับประสบการณ์จาดสินค้าหรือบริการแบบเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล เรียกว่า Personalized Brand Experience เพราะการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงนั้นเกิดมาจากกระบวนการแบ่งกลุ่ม หรือ Segmentation ส่งผลให้แบรนด์สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าได้แบบรู้ใจและตรงกับความต้องการ
Rocket จะขอพาคุณไปรู้จักกับ Marketing Segmentation และให้ได้ทราบว่า Segmentation คืออะไรกันแน่?
ยาวไปไม่อ่าน คลิกเลย
Marketing Segmentation คืออะไร
Segmentation คือ การแบ่งส่วนตลาด นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การวางแผนธุรกิจและวางแผนการตลาดแบ่งตามลักษณะของผู้บริโภค โดยในแต่ละบุคคลอาจจะมีความคล้าย ความเหมือน และความแตกต่างกันออกไป ทำให้การทำการตลาดแบบ Segmentation นั้นเป็นการแบ่งกลุ่มลูกค้าเข้าด้วยกันตามลักษณะเฉพาะ เช่น เพศ อายุ อาชีพ รายได้ ที่อยู่อาศัย
รู้จักกลยุทธ์ STP – Segmentation, Targeting, Positioning
Segmentation Targeting Positioning คือ เครื่องมือทางการตลาดในการแบ่งส่วนการตลาด คัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย และกำหนดตำแหน่งของสินค้าหรือบริการ ทั้งหมดนี้จะเข้ามามีส่วนช่วยแบรนด์ให้สามารถวางกลยุทธ์และกำหนดทิศทางของแบรนด์โดยรวม
Segmentation
การแบ่งส่วนการตลาด ช่วยให้แบรนด์สามารถวัดผลลัพธ์ได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถคาดคะเนพฤติกรรม จัดการเวลาและทรัพยากรตามความสำคัญ และเลือกขั้นตอนการปฏิบัติที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้ โดยแบ่งเป็น
Behavioral – พฤติกรรมการซื้อหรือสื่อสารกับแบรนด์ ทั้งความต้องการ ทั้งความถี่ในการใช้งานหรือซื้อ รวมไปถึงช่วงเวลาและโอกาสในการจับจ่าย
Geographic – ข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานที่ ได้แก่ ที่อยู่ จังหวัด ประเทศ จำนวนประชากร และสภาพอากาศที่นั้นๆ
Demographic – คือตัวตนของลูกค้า ทั้ง อายุ เพศ อาชีพ รายได้ สถานะครอบครัว
Psychographic – ข้อมูลด้านจิตวิทยา ได้แก่ ไลฟ์สไตล์ นิสัย สิ่งที่ยึดถือ ความสนใจต่างๆ
Targeting
หลังจากที่มีการกำหนดกลุ่มได้ ต่อมาเป็นขั้นตอนการวางแผนธุรกิจว่าจะต้องเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มไหนเป็นพิเศษ ต้องพิจารณาจาก 3 ข้อนี้
- ขนาดและความความสามารถในการเติบโตของกลุ่ม
- มูลค่าตลาดของกลุ่ม มองถึงความสามารถในการใช้จ้าย และระยะเวลาที่ลูกค้าจะสร้างกำไรให้กับแบรนด์
- ความยากง่ายในการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่ม รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงอีกด้วย
หลังจากพิจาณาแล้ว แบรนด์ก็จะสามารถประเมินได้ว่าควรให้ความสำคัญกับลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างไร ต้องทำการตลาดในรูปแบบไหน เพื่อให้แบรนด์เติบโตไปตามคาด
Positioning
การประเมินและจัดวางแบรนด์ในภาพรวมของตลาดเพื่อหาจุดอ่อนและจุดแข็ง ลูกค้าคาดหวังสิ่งใดจากการเลือกซื้อสินค้าบ้าง แบรนด์ที่สามารถวางตำแหน่งได้ดีและเติมเต็มช่องว่างที่มีอยู่ในตลาดก็จะสร้างความแตกต่างและโดดเด่นได้มากกว่าคู่แข่ง
Marketing Segmentation สามารถแบ่งได้กี่แบบ มีอะไรบ้าง
Marketing Segmentation สามารถแบ่งได้ 8 แบบดังนี้
1. Customer Segmentation
Customer Segmentation คือ การแบ่งกลุ่มตามลูกค้า ต้องทราบว่าลูกค้าคือใคร โดยใช้เกณฑ์การแบ่งกลุ่มที่หลากหลาย
- อายุ (15-30, 31-40, 41-60)
- เชื้อชาติ (ไทย / จีน)
- ศาสนา (พุทธ / คริสต์ / อิสลาม)
- เพศ (ชาย / หญิง / LGBT)
- บุคลิกภาพ (เคร่งขรึม / ชอบแสดงออก / มีความคิดสร้างสรรค์)
- ทัศนคติ (ชอบคาดหวัง / คิดบวก / อยู่กับความจริง)
- Lifestyle (ชอบท่องเที่ยว / สายกีฬา / สายสุขภาพ / รักอิสระ)
2. Psychographic Segmentation
Psychographic Segmentation คือ การแบ่งกลุ่มตามบุคลิกภาพ ความสนใจ ความคิดเห็น หรือไลฟ์สไตล์
- สถานะทางสังคม (ชนชั้นครอบครัว / ชนชั้นกลาง / ชนชั้นสูง)
- บุคลิกภาพ (เคร่งขรึม / ชอบแสดงออก / มีความคิดสร้างสรรค์)
- ทัศนคติ (ชอบคาดหวัง / คิดบวก / อยู่กับความจริง)
- Lifestyle (ชอบท่องเที่ยว / สายกีฬา / สายสุขภาพ / รักอิสระ)
- ลักษณะอื่นๆ (ชอบความท้าทาย / ชอบผจญภัย / เคร่งศาสนา)
- ความคิดเห็น (การเมือง / เศรษฐกิจ / ตัวเอง)
- งานอดิเรก (อ่านหนังสือ / เล่นเกม / ว่ายน้ำ)
- ความสนใจ (อาหาร / เทคโนโลยี / แฟชั่น)
3. Geographic Segmentation
Geographic Segmentation คือ การแบ่งกลุ่มตามภูมิศาสตร์และที่ตั้ง
- ภาค (เหนือ / ใต้ / ออก / ตก / ตะวันออกเฉียงเหนือ / ตะวันออกเฉียงใต้ / ตะวันตกเฉียงเหนือ / ตะวันตกเฉียงใต้)
- ประเทศ (ไทย / จีน / ญี่ปุ่น / สิงคโปร์)
- สถานศึกษา (มหาวิทยาลัยรัฐ / มหาวิทยาลัยเอกชน / โรงเรียนประถม / โรงเรียนมัธยม)
- จังหวัด (กรุงเทพฯ / เชียงใหม่ / ภูเก็ต)
ทวีป (เอเชีย / ยุโรป / อเมริกา / แอฟริกา) - ชุมชนต่างๆ
- พื้นที่ (พื้นที่ชนบท / พื้นที่ห่างไกล)
- สภาพภูมิอากาศ (เขตอากาศหนาว / เขตอากาศร้อน)
4. Demographic Segmentation
Demographic Segmentation คือ เป็นการแบ่งกลุ่มตามข้อมูลประชากร สามารถพบได้มากที่สุด พิจารณาจากความแตกต่างของบุคคล
- อายุ (15-30, 31-40, 41-60)
- เชื้อชาติ (ไทย / จีน)
- ศาสนา (พุทธ / คริสต์ / อิสลาม)
- เพศ (ชาย / หญิง / LGBT)
- สถานะ (โสด / สมรส / หย่าร้าง)
- อาชีพ (พนักงานบริษัท / ธุรกิจส่วนตัว / เจ้าของกิจการ / นักเล่นหุ้น)
- ขนาดครอบครัว (อยู่เป็นคู่ / อยู่เป็นครอบครัว 4 คน / อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ 5 คนขึ้นไป)
- รายได้ (20,000 บาท / เดือน 30,000 บาท / เดือน)
- การศึกษา (ปวช. / ปวส. / ปริญญาตรี / ปริญญาโท / ปริญญาเอก)
- รูปแบบที่อยู่อาศัย (สไตล์โมเดิร์น / สไตล์ชิคๆ / สไตล์เรียบง่าย / สไตล์หรูหรา)
- สถานะทางสังคม (คนทั่วๆไป / ผู้บริหารระดับสูง / ผู้บริหารระดับกลาง)
5. Consumer Segmentation
Consumer Segmentation คือ การแบ่งกลุ่มตามผู้บริโภค จะแบ่งตามความสนใจ ความน่าจะเป็นของพฤติกรรม ช่องทางการซื้อ
- พฤติกรรมการช้อปปิ้ง (ไม่ชอบเลย / มีความสุขเสมอ)
- พฤติกรรมการใช้สินค้า (ใช้ปริมาณมาก / ใช้ปริมาณน้อย)
- พฤติกรรมการซื้อสินค้า (นานๆที / ซื้อเป็นปกติ / ซื้อตามโอกาส)
- ความอ่อนไหวต่อราคา (อ่อนไหวต่อสินค้าราคาต่ำ / ไม่อ่อนไหวเลย)
- Buyers Journey (ช่วงการรับรู้ / ช่วงการพิจารณา / การตัดสินใจซื้อสินค้า)
6. Behavioral Segmentation
Behavioral Segmentation คือ การแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย
- โอกาสพิเศษ (วันเกิด / วันครบรอบ / วันจบการศึกษา)
- Buyers Journey (ช่วงการรับรู้ / ช่วงการพิจารณา / การตัดสินใจซื้อสินค้า)
- ความรู้ในตัวแบรนด์ (ไม่รู้เลย / รู้บ้าง / เข้าใจอย่างดี)
ประเภทความภักดีในตัวแบรนด์ (Brand Loyalty) (ไม่มีเลย / มีบ้าง / ระดับสาวก) - ความอ่อนไหวต่อราคา (อ่อนไหวต่อสินค้าราคาต่ำ / ไม่อ่อนไหวเลย)
- พฤติกรรมการช้อปปิ้ง (ไม่ชอบเลย / มีความสุขเสมอ)
- พฤติกรรมการใช้สินค้า (ใช้ปริมาณมาก / ใช้ปริมาณน้อย)
- พฤติกรรมการซื้อสินค้า (นานๆที / ซื้อเป็นปกติ / ซื้อตามโอกาส)
7. Media Segmentation
การแบ่งด้วยช่องทางการสื่อสาร ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
- โทรทัศน์ (เคเบิล / ดาวเทียม)
- วิทยุ (ช่องท้องถิ่นของจังหวัด / ช่องทั่วไป)
- โซเชียลมีเดีย (Facebook, Twitter, YouTube, Instagram)
- สื่อสิ่งพิมพ์ (หนังสือพิมพ์ / นิตยสาร)
- การค้นหาบนอินเทอร์เน็ต (Google / Yahoo / Bing)
8. Benefit Segmentation
การแบ่งกลุ่มตามประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
- ความสะดวกสบาย (ใช้ความพยายามในการหาสินค้า / ไม่ต้องใช้ความพยายามในการหาสินค้า)
- การบริการลูกค้า (ตรงตามความคาดหวัง / ปกติทั่วไป / เหนือความคาดหมาย)
- ความพิเศษ (ใช้งานง่าย / ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว)
คุณสมบัติ (ต่ำ / กลางๆ / ดีมาก)
ขั้นตอนการทำ Marketing Segmentation มีอะไรบ้าง
ขั้นตอนการทำ Segmentation
- แบ่งส่วนการตลาด ด้วยรูปแบบข้างต้น 2-3 ประเภท เช่น อายุ เพศ และไลฟ์สไตล์ ก็จะทำให้สามารถหา Segmentation ได้หลากหลายกลุ่ม
- พิจารณาหากลุ่มที่น่าสนใจ เมื่อแบ่งกลุ่มเสร็จแล้ว ก็ให้ดูกลุ่มที่น่่าสนใจที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าของแบรนด์มากที่สุด และต้องมีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าไปแข่งขันแล้วประสบความสำเร็จ
- จัดทำรายละเอียดเชิงลึกของแต่ละกลุ่ม ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีปัญหารูปแบบใด ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร อยู่ในบริเวนใดมากที่สุด เป็นต้น
- เลือกเป้าหมายที่มีโอกาสสร้างผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด โดยคำนึงถึงสื่อที่ต้องการจะสื่อสารออกไปเป็นสำคัญว่าเหมาะสมเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เลือกไปหรือไม่มากน้อยเพียงใด
Marketing Segmentation มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
Marketing Segmentation มีประโยชน์ต่อธุรกิจดังนี้
1. เพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ
การทำการแบ่งกลุ่มจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำแคมเปยการตลาดให้มากขึ้น เพราะมีการกำหนดกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน ส่งผลให้กลยุทธ์จะได้ผลมากกว่าเดิม เพราะไปสู่คนที่ใช่ในเวลาที่ใช่
2. เพิ่มผลกำไรมากขึ้น
การแบ่งส่วนการตลาดช่วยให้พบเจอโอกาสทางการตลาดหรือทางธุรกิจที่ดีมากขึ้นในตลาดที่กำลังแข่งขันอยู่โดยใช้งบประมาณน้อยลง
3. ช่วยตัดสินใจทางธุรกิจ
ช่วยในการกำหนดราคาและการจัดจำหน่าย เพราะสามารถพิจารณาได้จากข้อมูลประชากร ด้านภูมิศาสตร์ เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจ
4. ส่งผลต่อการเลือกช่องทางโฆษณา
ช่วยในการเลือกสื่อและช่อทางในการสื่อสาร ทำให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะรู้ว่าลูกค้าต้องการรับสื่อรูปแบบไหน และช่องทางไหนที่เหมาะสม ลดต้นทุนในการทำโฆษณา
5. ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ
การแบ่งการตลาดมีส่วนช่วยในการพัฒนาสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ตอบสนองตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้ามากกว่าเดิม
6. เพิ่มความพึงพอใจแก่ลูกค้า
การแบ่งส่วนการตลาดช่วยให้แบรนด์มีการบริการลูกค้าที่ดีมากยิ่งขึ้น เพราะรู้ถึงความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง
7. รักษาลูกค้าให้คงอยู่
Segmentation มีส่วนช่วยให้เกิดการกระตุ้นการซื้อซ้ำ เกิดความภักดีต่อแบรนด์ และเพิ่มมูลค่าตลอดการใช้งานให้มากขึ้น สามารถนำไปต่อยอดเพื่อทำ CRM ได้นั่นเอง
8. สร้างความแตกต่างและโดดเด่น
การแบ่งส่วนการตลาดออกเป็นหลาายกลุ่มจะสามารถทำให้ทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงได้ง่ายมากขึ้น สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงแบบตรงใจลูกค้า
9. เพิ่มโอกาสพบเจอกลุ่มเป้าหมายใหม่
การแบ่งกลุ่มการตลาดอาจจะทำให้พบเจอกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่สามารถทำให้เกิดการขยายตลาดออกไป เพราะถ้ากลุ่มใหญ่ก็อาจจะพลาดการมองเห็นเหล่านี้ไปได้
10. พัฒนาเป้าหมายธุรกิจ
การทำ Segmentation ช่วยให้แบรนด์มีเอกลักษณ์และความเชี่ยวชาญ ช่วยส่งเสริมให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ในทุกๆความต้องการ ทำมห้กลายเป็นผู้ครองส่วนแบ่งการตลาดได้มากขึ้น และเข้าไปเป็นตัวเลือกแรกของลูกค้าได้ง่าย
Marketing Technology เกี่ยวข้องยังไงกับการทำ Marketing Segmentation
Segmentation Targeting Positioning คือ การแบ่งส่วนแบ่งกลุ่มทางการตลาด ดังนั้นเครื่องมือที่คอยช่วยเหลือในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์อย่าง ระบบ CRM ระบบสะสมแต้ม หรือระบบสมาชิก ก็จะมีส่วนช่วยอย่างมากในการทำ Segmentation เพราะในระบบ CRM มักจะมีฟีเจอร์ที่คอยช่วยเหลือให้คุณสามารถเก็บข้อมูลที่ต้องใช้ในการแบ่ง และยังมีฟีเจอร์ตัวช่วยในการแบ่งกลุ่มของลูกค้าให้ง่ายดายมากขึ้น ทั้งยังแต่ละกลุ่มก็จะมีความพิเศษที่ได้รับแตกต่างกันออกไป แต่ข้อมูลที่ได้มาจากระบบ CRM นั้นจะมีความแม่นยำสูงเพราะเป็นตัวลูกค้าเองที่ลงทะเบียนข้อมูลเอาไว้
อย่าง Rocket เองก็มีตัวช่วยเพื่อคุณที่หลากหลาย
- ระบบสมาชิก : ระบบที่ช่วยเหลือในการจัดการสมาชิกหรือลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบสะสมแต้ม : ระบบที่คอยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำจนกลายเป็นลูกค้าประจำ
- ระบบ CRM : ระบบที่ช่วยรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้าต่อแบรนด์ของคุณ
- โปรแกรม POS : โปรแกรมที่ช่วยเหลือการขายของหน้าร้าน เสมือนมีผู้จัดการร้านมือดีคอยช่วย
สรุป
การแบ่งสัดส่วนการตลาดเป็นวิธีหรือกลยุทธ์ในการจัดการธุรกิจและการตลาดที่มีประสิทธิภาพด้วยการแบ่งกลุ่มของลูกค้าออกเป็นหลายๆกลุ่มย่อยตามเกณฑ์หรือปัจจัยต่างๆที่ได้มากจากข้อมูลที่มีอยู่จากลูกค้าเดิมหรือช่องทางอื่นๆ นำมาวิเคราะห์เพื่อต่อยอดการตลาดได้ต่อไปเพื่อให้สามารถทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงได้ ส่งผลดีให้กับแบรนด์ กระตุ้นการซื้อซ้ำ การหาลูกค้าใหม่ และจะดีกว่านี้ไปอีกถ้ามีเครื่องมือดีๆมาช่วยอีกแรงอย่าง ระบบ CRM จะยิ่งทำให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้ง่ายดายมากขึ้น

Rocket Loyalty CRM
เพิ่มยอดขายและลูกค้าประจำด้วย Rocket Loyalty CRM บริหารและแบ่งระดับสมาชิก สร้างของรางวัล คูปองและกระตุ้นยอดขาย ประทับใจลูกค้าไม่แพ้บริษัทยักษ์ใหญ่