มารู้จักกลยุทธ์ O2O Marketing คืออะไร มี Business Model อย่างไร

มารู้จักกลยุทธ์ O2O Marketing คืออะไร มี Business Model อย่างไร

O2O หรือ Online to Offline Marketing คืออะไร

2 พฤศจิกายน, 2022

ในปัจจุบันการตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ยังคงผสมปนเปกันอยู่ในการทำการตลาด และทั้งหมดล้วนมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และทั้งสองช่อทางก็ต่างมีข้อดีและข้อด้อยต่างกันไป ซึ่งข้อดีของทั้งสองอาจจะมาช่วยเกื้อหนุนกลบข้อด้วยของกันและกัน การทำโมเดลธุรกิจแบบ O2O จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ แต่ O2O คืออะไร ไปติดตามกันต่อได้เลย

ยาวไปไม่อ่าน คลิกเลย

O2O (Online-to-Offline) Marketing คืออะไร?

O2O (Online-to-Offline) Marketing คือ การผสมผสานระหว่างการตลาดแบบออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์นั่นเอง ซึ่งเป็นการนำคุณสมบัติเด่นของการตลาดทั้งสองรูปแบบมาคอยเติมเต็มซึ่งกันและกัน และเป็นโมเดลที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ทั่วโลก นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไซส์ไหนก็สนใจโมเดลธุรกิจแบบนี้เช่นกัน

O2O Platform มีอะไรบ้าง

O2O Platform คือ ช่องทางหรือพื้นที่ในการทำ O2O ซึ่งมีด้วยกันมากมาย นับได้ว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมดที่มีสามารถนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์ O2O ได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าแพลตฟอร์มเหล่านั้นเหมาะกับการทำการตลาดรูปแบบไหน และมีกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายแบบใดในแต่ละแพลตฟอร์ม ร้านค้าหรือแบรนด์ก็ควรที่จะเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของตนเอง เพื่อให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ก่อประสิทธิภาพต่อการทำกลยุทธ์ O2O มากที่สุด

นอกจากนี้การใช้เครื่องมือทางการตลาดเข้ามามีส่วนช่วยก็จะทำให้ยิ่งมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นไปอีก

O2O Strategy มีอะไรบ้าง

กลยุทธ์การตลาดของ O2O มีหลักๆดังนี้

O2O Strategy กลยุทธ์

BOPIS

Buy online, pickup in store (BOPIS) หรือ การซื้อแบบออนไลน์แล้วรับของที่ร้านค้า กลยุทธ์นี้จะช่วยผลักดันให้ผู้ซื้อของออนไลน์เหล่านั้นกลับมาซื้อที่หน้าร้านจริงๆ ลูกค้าสามารถเข้าไปดูสินค้าได้ทางช่องทางออนไลน์ต่างๆ และชำระเงินได้หลากหลายช่องทางทั้งทางหน้าร้านและออนไลน์ จากนั้นเลือกร้านค้าหรือสาขาที่ต้องการเข้าไปรับสินค้า ทางร้านก็จะแจ้งวันและเวลาที่ให้ลูกค้าเข้าไปรับสินค้าที่สั่งซื้อเอาไว้

Local SEO

ผู้คนกว่า 50% ที่ใช้ Google ในการค้นหาร้านค้าหรือร้านออาหารในบริเวณที่ตนเองอยู่ หรือตั้งใจว่าจะเดินทางไปบริเวณนั้น และเข้าชมเว็บไซต์ที่พบเจอบน Google และจับจ่ายผ่านออนไลน์มากถึง 79% เพราะฉะนั้นการที่ร้านค้าหรือแบรนด์ลงทุนในการทำ SEO เพื่อให้มีคนพบเจอจากเกินค้นหาย่อมส่งผลดีให้กับร้านค้า เพิ่มการเข้าถึง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ

QR Codes

การที่ลูกค้าเข้าไปซื้อของที่หน้าร้านนั้น มีลูกค้าถึง 55% ใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าเว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลของสินค้าหรือเปรียบเทียบราคา และตรวจสอบโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษต่างๆ เพราะฉะนั้นการวาง QR Code ในจุดที่ลูกค้าพบเ็นได้ง่ายก็จะช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าถึงหน้าร้านและสินค้าแบบออนไลน์ ช่วยเพิ่มโอกาสในการจับจ่ายทั้งหน้าร้านและในออนไลน์

ข้อดีของการซื้อสินค้าออนไลน์ และขายหน้าร้าน

ข้อดีของการซื้อสินค้าออนไลน์และเมื่อซื้อสินค้าที่หน้าร้านมีความเหมือนหรือแตกต่างกันดังนี้

ข้อดีของการซื้อสินค้าออนไลน์

แน่นอนว่าการซื้อสินค้าออนไลน์คือความสะดวกสบาย ทั้งการที่สามารถจับจ่ายสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางหรือต้องมีต้นทุนในการเดินทาง และยังสามารถเลือกสินค้าได้มากมาย เปรียบเทียบสินค้าได้หลากหลาย ทั้งยังมีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงอีกด้วย

ข้อดีของการซื้อสินค้าหน้าร้าน

ข้อดีของการซื้อสินค้าที่หน้าร้านได้แก่ สามารถจับต้องสินค้าได้ ได้สัมผัสสินค้าโดยตรง ได้เห็นถึงรายละเอียดจริงๆ และสามารถพูดคุยหรือสอบถามกับพนักงานได้ทันที และได้รับการบริการโดยคนจริงๆ นอกจากนี้ยังสามารถทดลองได้ก่อนมีการซื้อ

นอกจากข้อดีที่กล่าวมานี้ทำให้การทำธุรกิจรูปแบบ O2O นั้นมีประโยชน์อรกหลายประการด้วยกันดังหัวข้อต่อไป

ประโยชน์ของการทำ O2O

ประโยชน์ของการทำ O2O มีดังนี้

ประโยชน์ของการทำ O2O

1. ให้ในสิ่งที่นักช้อปต้องการ

ผู้บริโภคสมัยหใม่มีความเข้าใจว่ามีร้านค้าหลายร้านให้เลือกจับจ่าย หากคุฯไม่สามารถตอบโจทย์ในความต้องการของลูกค้าได้ ลูกค้าก็อาจจะไปอุดหนุนคู่แข่งของคุณแทน การทำ O2O จึงทำให้ลูกค้านั้นยังมีโอกาสที่จะได้รับคำแนะนำหรือโน้มน้าวได้โดยพนักงานขาย และสามารถสัมผัสสินค้าได้ด้วยตนเอง

2. เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

โมเดล O2O สามารถทำให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม โดยเหล่าร้านค้าสามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายและผลัดันให้ลูกค้าเลือกดูสินค้าจากบนออนไลน์แล้วไปซื้อจริงที่หน้าร้าน

3. การรับรู้ถึงแบรนด์

การซื้อของแบบออนไลน์ทำให้ลูกค้าไม่ได้มีพฤติกรรมการเลือกซื้อแบบเดิมที่มักเป็นเส้นตรง แต่มีการแวะไปยังที่ต่างๆก่อนการตัดสินใจ เพราะฉะนั้นร้านค้าจึงจำเป็นต้องใช้ O2O ในการเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจากช่องทางออนไลน์ให้มาจับจ่ายหน้าร้านจริง

4. ประหยัดต้นทุนค่าขนส่ง

การทำ O2O โดยเฉพาะการซื้อแบบออนไลน์และรับสินค้าที่หน้าร้าน จะช่วยให้ร้านค้าลดต้นทุนในการส่งสินค้า หรือหากจะเปลี่ยนให้ลูกค้าศึกษาข้อมูลจากในออนไลน์แล้วมาตัดสินใจจ่ายเงินรับของที่หน้าร้านก็ย่อมทำได้

แน่นอนว่ากลยุทธ์ O2O ก็ยังคงต้องพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์ควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ดังนั้นการจ้าง Rocket ที่มีบริการ รับทำการตลาดออนไลน์ และ รับยิงแอด ก็สามารถเป็นตัวช่วยให้ร้านค้าของคุณได้อย่างดี

ตัวอย่างธุรกิจ O2O (Offline-to-Online)

ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้โมเดลหรือกลยุทธ์ O2O ในการทำธุรกิจ O2O คือ

Beauty Hero

ธุรกิจที่ขายสินค้าเกี่ยวกับความสวยความงามในรูปแบบ e-commerce ก็มีการใช้งาน O2O เช่นเดียวกัน ทำให้ยอดขายพุ่งสูงขึ้นมากจนทางแบรนด์ตัดสินใจเปิดหน้าร้านแบบออฟไลน์เป็นแห่งแรกในแคลอฟอร์เนีย แล้วก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ๆ

ทางแบรนด์ใช้ โปรแกรม POS เพื่อรวมข้อมูลการขายผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และมีการสนับสนุนลูกค้าเดิมให้ไปอุดหนุนที่หน้าร้านด้วยการนำเสนอโปรโมชั่นที่ตรงเป้ากับลูกค้า

Allbirds

แบรนด์ร้านรองเท้า ที่มีการผสมผสานระหว่างการขายแบบออนไลน์และหน้าร้านแบบออฟไลน์อย่างลงตัว เริ่มจากการขายออนไลน์ ตามด้วยการเปิดร้านแบบ Pop-Ups ต่อยอดอีกด้วยการเปิดหน้าร้านออฟไลน์ไปทั่วมุมโลก ทั้งอเมริกา อังกฤษ และเกาหลีใต้

กลยุทธ์ O2O ของ Allbirds คือลูกค้าทุกคนที่ได้เข้าชมร้านค้าออฟไลน์กว่า 20 สาขาจะมีสินค้าติดมือกลับบ้านไปอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่มีสินค้าอยู่ในคลัง เพราะมีการใช้ ระบบ POS ในการประมวลผล และจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าถึงหน้าบ้าน

สรุป

O2O เป็นการผสมผสานระหว่างการตลาดแบบออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์นั่นเองโดยการนำคุณสมบัติเด่นของการตลาดทั้งสองรูปแบบมาคอยเติมเต็มซึ่งกันและกัน และเป็นโมเดลที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ทั่วโลก และหากมีการทำการตลาดที่เหมาะสมควบคู่ไปกับเครื่องมือที่ดีจะยิ่งช่วยให้ร้านค้าทำการตลาดแบบ O2O ได้ดีมากยิ่งขึ้น


shapeshapeshape

ลงทะเบียน รับคำปรึกษาฟรี!

รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Martech และ Business Transformation

Rocket BLOG

MarTech knowledge to help you stay ahead of the curve.

สะสมแต้ม

บัตรสะสมแต้มคืออะไร ? ต่างจากระบบสะสมแต้มออนไลน์อย่างไร

โปรแกรมระบบสะสม แต้ม (Loyalty Programs) มีการพัฒนาอย่างมาก จากบัตรสะสมแต้มธรรมดาในอดีต สู่แพลตฟอร์มด…

#MARKETING
niche-market-คือ

Niche Market คืออะไร? มัดใจลูกค้ากลุ่มนี้อย่างไร

ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน การสร้างความโดดเด่นจากคู่แข่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมากกว่าที่เคย นี่…

#MARKETING
ตัวอย่าง-crm

ตัวอย่าง CRM ของบริษัทต่างๆ มีอะไร?

ในโลกแห่งการตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเข้าใจและใช้ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) อย่างมีประสิ…

#MARKETING

LINE

Call

Free trial

test

Contact

Contact us now

test

✓ Valid number ✕ Invalid number
This field is for validation purposes and should be left unchanged.

Stronger loyalty, through smarter engagement