Customer Value คืออะไร คำนวณคุณค่าลูกค้าทางธุรกิจอย่างไร

Customer Value คืออะไร คุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากธุรกิจคำนวณเป็นตัวเลขได้

customer-value

18 มีนาคม, 2024

การทำธุรกิจสมัยนี้สิ่งที่สามารถเพิ่มยอดขายได้นั่นก็คือการมี Customer Value คือ คุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากการซื้อสินค้าและบริการของทางธุรกิจ โดยจะต้องยกระดับก่อนการขายและหลังการขายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการเรียนรู้เกี่ยวกับ Customer Value คือ สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ว่าแต่คืออะไรนั้นสามารถติดตามอ่านกันต่อได้



Customer Value คือ คุณค่าที่ลูกค้าได้รับอย่างสูงสุด

 

customer value คือ คุณค่าที่ลูกค้าได้รับ

สำหรับ Customer Value คือ คุณค่าที่ลูกค้าได้รับจากการซื้อสินค้าและบริการว่าตอบโจทย์อย่างสูงสุดหรือไม่ ซึ่งในจุดนี้สามารถสร้างระบบต่างๆ เพื่อที่จะนำมาวิเคราะห์พัฒนาสินค้าและบริการได้เรื่อยๆ แบบไม่มีข้อจำกัด ในขณะเดียวกันตัวลูกค้าเองก็สามารถประเมินได้ว่าสิ่งที่ตัวเองซื้อคุ้มค่ากับราคาที่ได้มีการจ่ายไปหรือไม่ และถ้าหากไม่คุ้มค่าจะสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างไร ในจุดนี้customer value ตัวอย่างที่เห็นได้แน่ชัดก็คือกำหนดสินค้าและบริการอย่างเหมาะสมก็จะสามารถทำให้ลูกค้าขาจรกลายเป็นลูกค้าประจำได้ และใช้ กลยุทธ์ crm ควบคู่ไปด้วยกัน


ทำไมเราถึงต้องมี Customer Value?

การมี customer value คือ สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะจะเพราะทางองค์กรหรือทางธุรกิจจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผลิตสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าผ่านความต้องการขั้นพื้นฐานและความต้องการแบบแฝง โดยมีการกำหนดคุณค่าลักษณะเฉพาะบางอย่างที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ถึง “ความพิเศษ” ของทางองค์กรหรือธุรกิจ เมื่อลูกค้าเกิดความรู้สึกที่พิเศษก็จะเป็นการสร้างความภักดีให้กับสินค้าและบริการได้มากยิ่งขึ้น และอาจเป็นภัคดีต่อแบรนด์ไปเลยก็เป็นได้ จนไม่สามารถซื้อสินค้าหรือบริการเจ้าอื่นๆ ได้


วิธีการคำนวณ Average Purchase Value (APV)

ในการคำนวณ Average Purchase Value จะเป็นการหาค่ามูลค่าการซื้อเฉลี่ยจากลูกค้าว่ามีการซื้อเฉลี่ยเป็นเท่าไหร่ และจำเป็นที่จะต้องมีลูกค้าหลายๆ คนในสูตรการคำนวณนี้ ซึ่งการคำนวณ clv คือ โครงสร้างมีดังนี้

ค่าใช้จ่ายในการสั่งรายสัปดาห์ / จำนวนครั้งในการสั่งซื้อ = การสั่งซื้อโดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์

เมื่อได้มูลค่าการซื้อเฉลี่ยของคนแรก ก็ให้ทำการคัดเลือกกลุ่มลูกค้ามาหามูลค่าการซื้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นจึงมาคำนวณเพื่อให้มีความแม่นยำมากขึ้น(ค่าเฉลี่ยในการซื้อของลูกค้า 1 + ค่าเฉลี่ยในการซื้อของลูกค้า 2 …) / จำนวนลูกค้าที่นำมาเฉลี่ยทั้งหมด = มูลค่าการซื้อเฉลี่ย Average Purchase Value (APV)


วิธีการคำนวณ Average Purchase Frequency Rate

เมื่อได้ผลลัพธ์จากการคำนวณ Average Purchase Value (APV) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็จะต้องมาคำนวณอัตราความถี่ในการซื้อเฉลี่ย customer value ตัวอย่าง การคำนวณมีดังนี้

อัตราความถี่ในการซื้อเฉลี่ย (APFR) = จำนวนครั้งการซื้อสินค้าของลูกค้าทั้งหมด / จำนวนลูกค้าทั้งหมด


วิธีการคำนวณ Customer lifetime Value

จากการคำนวณ Average Purchase Value (APV) และ Average Purchase Frequency Rate แล้วก็ถึงการคำนวณ customer lifetime value คือ โครงสร้างมีดังนี้

customer lifetime value = มูลค่าการซื้อโดยเฉลี่ย (APV) x อัตราความถี่ในการซื้อโดยเฉลี่ย (APFR) 


วิธีการเพิ่ม Customer Value

เพิ่ม customer value

 

1. ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์การซื้อ-ขายที่ดีแก่ลูกค้า

ในการเพิ่ม Customer Value สิ่งแรกที่ควรใส่ใจมากที่สุดคือการสร้างประสบการณ์การซื้อ – ขาย ที่ดีให้กับลูกค้า หรือ Customer Experience โดยประสบการณ์ที่ว่านั้นจะหมายถึงสินค้าและบริการที่ลูกค้าได้ทำการซื้อหรือทำการขายว่ามีการได้ราคาในคุ้มค่าจากการที่ได้มีการซื้อหรือขายไปหรือไม่ โดยจุดสำคัญคือการให้บริการครั้งแรกที่จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อที่ว่าจะได้สามารถตอบโจทย์ความต้องการหรือความพึงพอใจให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าหากทำตรงนี้ได้ดีลูกค้าก็อาจจะกลายเป็นลูกค้าประจำ และในอนาคตก็อาจกลายเป็นลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ หรือ Brand Royalty ก็เป็นได้

 

2. เข้าใจถึงจุดแข็งของธุรกิจตัวเอง

ในการรับรู้ถึงจุดแข็งของธุรกิจของตัวเองนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากถือว่าเป็นฐานที่ต้องตั้งมั่นให้ดี ผ่านการไตร่ตรองอย่างเป็นระบบโดยมีการคำนวณกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่ชัดสามารถวัดได้เป็นรูปธรรม เพื่อที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า อีกทั้งในขณะเดียวกันก็เป็นการกำหนดตัวตนของแบรนด์ที่ชัดเจน Brand Identity สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี เพราะการมีจุดแข็งที่ดีนับว่าเป็นสาเหตุที่ลูกค้าเลือกเรา

 

3. รับฟังคำติชมจากลูกค้าและนำไปปรับปรุงแบรนด์

ถ้าอยากจะพัฒนาแบรนด์ได้อย่างก้าวกระโดด และเพิ่มค่า Customer Value การรับฟังคำติชมจากลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในจุดนี้จะสามารถนำไปใช้พัฒนาในขณะเดียวกันก็สามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นได้ และในหลายๆ ครั้งก็จะได้ไอเดียใหม่ๆ ในการที่จะทำสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาด้านการให้บริการลูกค้าในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีได้เช่นกัน

 

4. พัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดสม่ำเสมอ

แน่นอนว่าในการทำธุรกิจไม่ควรหยุดอยู่กับที่เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้คนเปลี่ยนไปจึงไม่ใช่เรื่องแปลก จากสินค้าหรือบริการที่เคยดีอาจเจอสิ่งที่ดีกว่าก็ได้ ดังนั้นใครที่มีธุรกิจไม่ควรหยุดนิ่งจำเป็นที่จะต้องพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดเพื่อสามารถเสมอเพื่อสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างตรงจุด

 

5. สร้างเอกลักษณ์ให้ผลิตภัณฑ์และบริการ

การทำธุรกิจสมัยนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่เหมือนสมัยก่อน ดังนั้นการสร้างเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์และบริการจะเป็นการดึงลูกค้าให้มาซื้อสินค้าและบริการได้ โดยเอกลักษณ์นี้ก็หมายถึงคาแรกเตอร์แบรนด์ที่สามารถชูจุดเด่นที่ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มความแตกต่างทางการตลาดให้ไม่ซ้ำกับเจ้าอื่นๆ และเป็นการเพิ่ม Customer Value ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

6. ระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Target Group) ให้ชัดเจน

จากที่ได้กล่าวไปในหลายๆ ข้อ คงจะเห็นแล้วว่าในหลายๆ เรื่องจะสัมพันธ์กันกับการระบุกลุ่มเป้าหมาย หรือ Target Audience ให้ชัดเจน เพราะสิ่งนึงที่จำเป็นต้องตระหนักในการผลิตสินค้าและบริการเราขายตามความต้องการของลูกค้า เราไม่ได้ขายตามความต้องการของตัวเอง ถ้าหากระบุให้ชัดเจนได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งสามารถเพิ่มยอดขายได้มากเท่านั้น แน่นอนว่ายังสามารถ เพิ่ม customer value proposition คือ สิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย


สรุป Customer Value คือ สิ่งจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจ

การมี Customer Value คือ สิ่งที่ดีสำหรับธุรกิจและองค์กรเป็นอย่างมาก เพราะการรู้คุณค่าที่ได้รับผ่านการคำนวณที่สามารถกำหนดเป็นตัวเลขได้จะช่วยพัฒนาแบรนด์ได้ไกลยิ่งขึ้น แน่นอนว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ลูกค้ามีไม่ใช่การซื้อมาขายไป แต่จะกลายเป็นการเลือกซื้อที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก และเกิดการภักดีต่อสินค้าและบริการ ซึ่งในจุดนี้การรู้เรื่องคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับก็สามารถนำไปพัฒนาสินค้าและบริการได้ในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ ระบบ crm อย่างทาง Rocket เองก็มีทำแพลตฟอร์มที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบสมาชิก  ระบบสะสมแต้ม การเก็บข้อมูลการสั่งซื้อและอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน


shapeshapeshape

ลงทะเบียน รับคำปรึกษาฟรี!

รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Martech และ Business Transformation

Rocket BLOG

MarTech knowledge to help you stay ahead of the curve.

Line Mini App

Line Mini App คืออะไร? จำเป็นต่อแบรนด์คุณหรือไม่?

  ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ ต้องหาทางดึงดูดลูกค้าที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนโทรศัพท์มือถือ …

#MARKETING
Hubspot CRM

Hubspot คืออะไร จำเป็นต่อแบรนด์อย่างไร?

เคยสงสัยหรือไม่ว่า Hubspot คืออะไร? ทำไม Hubspot CRM ถึงถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากในหมวดหมู่ เทคโนโลยีท…

#MARKETING
Customer Churn

Customer Churn คือการสูญเสียลูกค้าประจำที่ทุกธุรกิจไม่ควรปล่อยปละละเลย

การทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จนั้น จำเป็นต้องวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดให้รอบด้าน เพื่อทำให้สินค้า หรือบริ…

#MARKETING

ติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางการตลาดฟรี

แอดไลน์

Now, you can engage like a digital giant